หลายคนยังเชื่อว่าเกมเป็นเรื่องไร้สาระ เสียเวลา แต่หลายๆอย่างของเกมสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการทำงานได้ดีเหมือนกันนะ โพสต์นี้ขอนำเกมยอดฮิตแห่งยุคนี้มาเล่า นั่นก็คือเกม Arena of Valor หรือเกม ROV ที่ทุกคนรู้จักนั่นเอง ซึ่งเป็นเกมที่เกือบทุกวัยเล่นได้ และติดกันงอมแงมทั่วบ้านทั่วเมืองกันเลยทีเดียว
โดยหัวข้อนี้ จะขอเปรียบเทียบเทคนิคสำคัญในเกมที่นำไปสู่ชัยชนะ กับวิธีการทำงานในชีวิตประจำวันที่นำไปสู่ความสำเร็จ
การเลือกตัวละคร
สำหรับเกมตัวเกม ROV ตัวละครในเกมจะมีบทบาทหน้าที่ต่างกันกันไป เช่น เมจ แครี่ ไฟเตอร์ จังเกิ้ล แทงค์ ซัพพอร์ต ใน 1 ทีมควรเลือกตำแหน่งที่หลากหลาย เพื่อดึงศักยภาพของทีมออกมาให้ได้มากที่สุด หากเลือกแต่ตำแหน่งที่เราชอบแต่ไม่ดูภาพรวมของทีม ก็อาจทำให้การต่อสู้นั้นยากลำบากมากขึ้น
เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับการทำงาน ก็เหมือนกับการรู้บทบาทหน้าที่ของตนเอง และเคารพบทบาทหน้าที่ของคนอื่น ไม่ว่าจะเป็น หัวหน้างาน ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน หรือฝ่ายอื่นๆที่เราต้องติดต่องานด้วย เมื่อเรารู้หน้าที่ของเราและของผู้อื่นก็จะช่วยให้การทำงานชัดเจนไม่ซ้อนทับกัน เกิดความเข้าใจ และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การออกไอเทม (ออกของ)
สำหรับเกมตัวเกม ROV หนึ่งในเทคนิคสำคัญที่จะชี้ชะตาการต่อสู้ในระยะยาว คือการออกของนั่นเอง ตัวอย่างเช่น หากคู่ต่อสู้ของเราเป็นสายเวทย์เยอะ การออกของแก้ทางก็คือเกราะกันเวทย์ ถ้าเรามองออกก็จะช่วยให้การต่อสู้ของเราเป็นเรื่องง่ายขึ้นเยอะเลยทีเดียว
หามองในมุมการทำงานก็เปรียบกับการเลือกเครื่องมือในการทำงาน หากเรารู้ว่างานประเภทนี้ใช้วิธีไหนที่จะทำให้งานออกมาดี ก็จะช่วยยกระดับงานของเพื่อนๆให้ดียิ่งขึ้น การจะรู้ว่าวิธีไหนดีก็อาจเกิดจากการพูดคุย ศึกษา แลกเปลี่ยนกับผู้อื่น เราก็จะมีคลังข้อมูลที่สามารถเลือกหยิบเครื่องมือออกมาได้ตามสถานการณ์ที่เราเจอได้อย่างเหมาะสม
การยืนเลน
สำหรับเกมตัวเกม ROV เมื่อออกของเสร็จ สิ่งสำคัญไม่แพ้กันคือการยืนเลน ถ้าเรายืนเลนได้ดี ไม่ตายบ่อย ไม่โดนคู่แข่งกดมาก ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสชนะให้กับทีมได้มาก แต่ถ้าเรายืนเลนได้ไม่ดี ก็จะส่งผลเสียทางอ้อมไปกับเลนอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น เพื่อนที่อยู่เลนอื่นก็ต้องคอยมาช่วยอยู่ตลอด จนไม่สามารถดูแลเลนของตัวเองได้ดีเท่าที่ควร
เปรียบกับการทำงานในหน้าที่ของเราได้อย่างดี เรียบร้อย ถูกต้อง ตรงเวลา ก็จะทำให้งานชิ้นนั้นๆ โอกาสสำเร็จสูงขึ้น และไม่สร้างภาระให้ฝ่ายอื่นๆ ต้องหนักใจ
การเข้าซ้อน
สำหรับเกมตัวเกม ROV เมื่อเพื่อนในทีมเกิดการปะทะกับคู่ต่อสู้ หากเราอยู่ใกล้ การที่เราเข้าไปช่วยซ้อนเพื่อน อาจทำให้สถาการณ์ที่เพื่อนเรากำลังแย่อยู่ พลิกกลับมาดีได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เสมือนการช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยออกความเห็น ช่วยปรึกษา ช่วยทำในงานที่ยาก ก็จะช่วยให้เพื่อนของเราผ่านปัญหาต่างๆ โดยไม่โดดเดี่ยว และอาจทำให้เกิดไอเดียใหม่ๆ ที่ดีขึ้นกว่าการทำคนเดียวอีกด้วย
การมุ่งเป้าหมาย (ตีป้อม)
สำหรับเกมตัวเกม ROV เป้าหมายของเกมหลักๆ คือ การทำลายป้อมของคู่ต่อสู้ให้หมด แต่เพื่อนๆบางคนติดใจการฆ่ามากกว่าการทำลายป้อม ก็จะทำให้เกมนั้นยืดเยื้อ ดีไม่ดีอาจเป็นฝ่ายเสียเปรียบในตอนหลัง และพบกับความพ่ายแพ้ในที่สุดก็เป็นได้
เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับการทำงาน หากการทำงานของทีมงานไม่ยึดเป้าหมายของทีมเป็นหลัก หรือยึดเฉพาะเป้าหมายส่วนบุคคล ก็จะทำให้การทำงานหลงทิศหลงทาง ใช้พลังงานและเวลาในการทำงานมากขึ้น หากถึงขั้นวิกฤติอาจทำให้งานล่าช้า หรือไม่สำเร็จอีกด้วย
การเล่นเป็นทีม
สำหรับเกมตัวเกม ROV เทคนิคที่สำคัญที่สุดของเกมนี้นั่นก็คือ การเล่นเป็นทีม นั่นเอง ถ้าเราเก่งอยู่คนเดียว แล้วไม่ฟังเพื่อน แถมยังชอบด่าเพื่อนอีก โอกาสที่เกมนั้นจะชนะยิ่งมีน้อย ความผิดพลาดของคนในทีมย่อมเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ผู้เล่นต้องเรียนรู้ที่จะให้กำลังใจ ให้คำแนะนำ ให้ความร่วมมือ ให้ความเชื่อใจ และให้กำลังใจเพื่อนๆในทีม เพื่อมุ่งไปสู่ชัยชนะร่วมกัน
เมื่อนำมาเปรียบเทียบในการทำงานก็เช่นกัน หากเรายึดแต่เป้าหมายของเรา หรือความคิดของเราเพียงคนเดียว งานก็อาจจะออกมาดีในระดับหนึ่ง แต่ถ้าหากเราร่วมมือร่วมใจ ดึงจุดที่แต่ละคนถนัดมาร่วมมือกัน ก็จะยิ่งช่วยยกระคุณภาพ ระดับความสุข ระดับความสนุกของงาน ได้อีกมาก
เพื่อนๆที่อ่านจบแล้วก็ลองนำเทคนิค ข้อคิดต่างๆ ไปปรับใช้ในชีวิตการทำงานกันดูนะครับ